วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

วัดในจังหวัดสุพรรณบุรี วัดทับกระดาน


อยู่ที่อำเภอสองพี่น้องเป็นอำเภอบ้านเกิดของพุ่มพวง ดวงจันทร์ นักร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดังซึ่งมีคนนิยมฟังเพลงของเธอมากมายและได้เสียชีวิต ไป ทำให้แฟนเพลงเสียใจกันมาก จึงมีการเก็บรวบรวมเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ที่ใช้ในการร้องเพลง รวมทั้งรูปถ่ายจากข่าวหนังสือพิมพ์ไว้ในโบสถ์ของวัดนี้  นื่องจากพุ่มพวงคุ้นเคยกับวัดนี้ตั้งแต่เด็ก นอกจากนี้บริเวณศาลาท่าน้ำจะมีรูปวาดของพุ่มพวง ดวงจันทร์ที่มีคนนำมาให้เพื่อแก้บน ด้านหน้าวัดมีร้านขายของสด แห้งต่าง ๆ เช่น น้ำพริก หน่อไม้ ผลไม้ต่างๆ ทุกปีจะมีการจัดงานครบรอบวันเสียชีวิตของนักร้องผู้นี้ มีผู้คนมาร่วมงานจำนวนมาก



 
 ประวัติ พุ่มพวง ดวงจันทร์ (ผึ้ง)
มีชื่อจริงว่า "รำพึง จิตรหาญ" เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2504 ณ ตำบลบ่อสุพรรณ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรีเป็นบุตรคนที่ 5 จากพี่น้องจำนวน 13 คนของนายสำราญ และนางเล็ก จิตรหาญ ครอบครัวมีอาชีพรับจ้างทำไร่อ้อย
     เจ้าตัวชื่นชอบการร้องเพลงลูกทุ่งตั้งแต่เด็กเดินสายประกวดร้องเพลงลูกทุ่งใช้ชื่อว่าน้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย และมาอยู่กับวงดนตรี ดวง อนุชา ตั้งแต่อายุประมาณ 10 ขวบ เมื่ออายุได้ 15 ปี บิดาและน้าชายของรำพึงฝากฝังให้เป็นบุตรบุญธรรมของ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ โดยใช้ชื่อว่า น้ำผึ้ง สกุณี ก่อนที่ไวพจน์ จะแต่งเพลงและอัดแผ่นเสียงชุดแรกให้ ชื่อเพลง แก้วรอพี่ และหันมาใช้ชื่อในการร้องเพลงว่า น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ เมื่อ พ.ศ. 2519
    ต่อมา ลาออกจากวงไวพจน์มาพร้อมกับธีระพล แสนสุข ไปอยู่กับวงดนตรีศรเพชร ศรสุพรรณ เป็นทั้งนักร้องพร้อมกับเต้นหางเครื่องด้วย และย้ายมาอยู่กับขวัญชัย เพชรร้อยเอ็ด หลังจากอยู่กับศรเพชรไม่นาน และได้บันทึกเสียงจากการแต่งของก้อง กาจกำแหง ร้องแก้ขวัญชัย เพลงนั้นคือ รักไม่อันตราย
เจ้าตัวใช้ชื่อในการร้องเพลงว่า พุ่มพวง ดวงจันทร์ จากการตั้งชื่อโดย มนต์ เมืองเหนือและตั้งวงดนตรีเป็นของตนเอง โดยการสนับสนุนของคารม คมคาย นักจัดรายการวิทยุ แต่ไม่ประสบความสำเร็จก่อนจะย้ายมาสังกัดบริษัทเสกสรรเทป-แผ่นเสียง
ผลงานของพุ่มพวง ดวงจันทร์เริ่มประสบความสำเร็จในเวลาต่อมาหลังจากได้รับการสนับสนุนจากประจวบ จำปาทองและปรีชา อัศวฤกษ์นันท์ ให้ตั้งวงร่วมกับเสรี รุ่งสว่าง ในชื่อวง เสรี-พุ่มพวง จากจุดนี้ก็ได้รับความสำเร็จขึ้นพุ่มพวง มีชื่อเสียงสูงสุดในช่วงปี พ.ศ. 2515-2534หลังจากออกจากเสกสรรเทป-แผ่นเสียงมาอยู่ในสังกัดอโซน่าด้วยเพลงจากการแต่งของลพ บุรีรัตน์ที่พลิกแนวให้หันมาร้องเพลงสนุกๆ และได้การตอบรับจากคนฟังเป็นอย่างมาก
เพลงที่มีชื่อเสียง ได้แก่ สาวนาสั่งแฟน ซึ่งเป็นเพลงจุดประกาย ก่อนจะตามมาด้วยเพลง นัดพบหน้าอำเภอ, อื้อฮือหล่อจัง, ดาวเรืองดาโรย, คนดังลืมหลังควาย, นักร้องบ้านนอก, บทเรียนราคาเพลง, หม้ายขันหมาก และอื่นๆอีกมาก นอกจากนี้ ยังได้เป็นผู้ร้องเพลง ส้มตำ (เพลงพระราชนิพนธ์) พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
    พุ่มพวงเข้าสู่วงการภาพยนตร์ และแสดงหนังเรื่องแรก สงครามเพลง สร้างโดยฉลอง ภักดีวิจิตร และอีกหลายเรื่อง ในช่วงที่แสดงภาพยนตร์เรื่อง มนต์รักนักเพลง ได้พบกับไกรสร แสงอนันต์ ได้พาพุ่มพวงพามาเข้าสังกัด อ.ไพจิตร ศุภวารี และมีผลงานอีกหลายชุด เช่น ตั๊กแตนผูกโบว์ โลกของผึ้ง หลังจากนั้นมาอยู่กับห้างท็อปไลน์ก่อนจะหายหน้าไปจากวงการเนื่องจากป่วยด้วยโรคเอสแอลอี
ราชินีเพลงลูกทุ่งมีบุตรกับไกรสร 1 คน คือ "เพชร สรภพ ลีละเมฆินทร์" และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2535 พิธีพระราชทานเพลิงศพของพุ่มพวง ดวงจันทร์ จัดที่วัดทับกระดาน อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. พ.ศ. 2535 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธี
    นอกจากนี้ยังมีการสร้างหุ่นพุ่มพวง ตั้งอยู่ในศาลาริมสระน้ำ วัดทับกระดาน อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยทางวัดจะมีการจัดงานรำลึกถึงพุ่มพวงทุกปี ช่วง
13-15 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของเธอ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น